วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ไอซีที เข็น 5 มาตรการให้ ISP ช่วย ปิดกั้นเว็บหมิ่นฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 พ.ย.51) นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ได้หารือร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช เข้าเพื่อหามาตรการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นายมั่น กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อได้ข้อตกลงร่วมกัน 5 มาตรการเบื้องต้น ได้แก่ 1.ให้ ISP ร่วมมือปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทันทีที่พบเห็น 2.ให้ ISP สืบค้นหาตัวผู้กระทำผิดทุกครั้งก่อนการปิดกั้นเว็บไซต์ 3.กระทรวงไอซีทีจะพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดและเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดี และขอความร่วมมือ ISP นำรายชื่อผู้กระทำผิดขึ้นบัญชีและนำประกาศเผยแพร่ตามเว็บไซต์ต่างๆ 4.หากกระทรวงไอซีที ตรวจพบว่า ISP รายใดไม่ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ตามที่กระทรวงไอซีที มีหนังสือแจ้งเตือนไป 2-3 ครั้ง จะแจ้งให้ กทช เพิกถอนใบอนุญาตทันที 5.สำหรับ ISP ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูและของภาครัฐ ได้แก่ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด “การประชุมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการขอความเห็นจาก ISP แต่เป็นการเสนอใช้เป็นมาตรการ 5 มาตการ และเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ จะออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อคุ้มครองไม่ให้ ISP ถูกฟ้องในการปิดเว็บไซต์ต่างๆ และเพื่อให้ กทช สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากทาง กทช จะเป็นผู้เพิกถอนใบอนุญาต ส่วนการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือ พรบ.คอมฯ กระทรวงจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ในวันอังคารหน้า โดยเน้นการเพิ่มอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับเว็บหมิ่นฯ” รมว.ไอซีทีกล่าว
ข่าวจาก : ไทยรัฐ
วันที่ : 6 พฤศจิกายน 2551
นายมั่น กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อได้ข้อตกลงร่วมกัน 5 มาตรการเบื้องต้น ได้แก่ 1.ให้ ISP ร่วมมือปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทันทีที่พบเห็น 2.ให้ ISP สืบค้นหาตัวผู้กระทำผิดทุกครั้งก่อนการปิดกั้นเว็บไซต์ 3.กระทรวงไอซีทีจะพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดและเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดี และขอความร่วมมือ ISP นำรายชื่อผู้กระทำผิดขึ้นบัญชีและนำประกาศเผยแพร่ตามเว็บไซต์ต่างๆ 4.หากกระทรวงไอซีที ตรวจพบว่า ISP รายใดไม่ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ตามที่กระทรวงไอซีที มีหนังสือแจ้งเตือนไป 2-3 ครั้ง จะแจ้งให้ กทช เพิกถอนใบอนุญาตทันที 5.สำหรับ ISP ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูและของภาครัฐ ได้แก่ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด “การประชุมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการขอความเห็นจาก ISP แต่เป็นการเสนอใช้เป็นมาตรการ 5 มาตการ และเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ จะออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อคุ้มครองไม่ให้ ISP ถูกฟ้องในการปิดเว็บไซต์ต่างๆ และเพื่อให้ กทช สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากทาง กทช จะเป็นผู้เพิกถอนใบอนุญาต ส่วนการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือ พรบ.คอมฯ กระทรวงจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ในวันอังคารหน้า โดยเน้นการเพิ่มอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับเว็บหมิ่นฯ” รมว.ไอซีทีกล่าว
ข่าวจาก : ไทยรัฐ
วันที่ : 6 พฤศจิกายน 2551
โปรแกรมแต่งภาพที่ไม่ต้องเก่งคอมฯก็ทำได้
เจ้าโปรแกรมตัวนี้มีชื่อว่า Picture Collage Maker เป็นโปรแกรมนำรูปมาใส่กรอบ ใส่เฟรม ใส่ Template ใส่ข้อความ ในสไตล์น่ารัก นอกจากนี้ยังสามารถทำปฏิทิน ,Greeting Card ,Invitation Card, Poster, Wallpaper Slideshow และอื่น ๆ อีกมากมาย
ใช้งานง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส
วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551
วิชาเทคโนยีเพื่อการสื่อสาร
1.ทำให้เราใช้งาน Gmail ได้ โดยการรับส่ง E-Mail ทั้งข้อความและการแนบไฟล์ที่เป็นรูปภาพได้
2.เราสามารถทำบล็อกได้และมีบล็อกเป็นของตนเอง
3.มีความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น
4.เกิดความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยี
5.ทำให้เรารู้ถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีมากขึ้น
6.มีความเข้าใจในเรื่องของนวัตกรรมมากขึ้น
7.เกิดความสนใจในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ
8.มีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
9.สามารถนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ประกอบการเรียนการสอนได้
2.เราสามารถทำบล็อกได้และมีบล็อกเป็นของตนเอง
3.มีความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น
4.เกิดความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยี
5.ทำให้เรารู้ถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีมากขึ้น
6.มีความเข้าใจในเรื่องของนวัตกรรมมากขึ้น
7.เกิดความสนใจในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ
8.มีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
9.สามารถนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ประกอบการเรียนการสอนได้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
1.ได้เรียนรู้หลักพื้นฐานของภาษาอังกฤษ
2.ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
3.ได้ทบทวนความรู้เก่าๆ
4.ได้ฝึกการพูดภาษาอังกฤษ
5.ได้ฝึกการเขียนภาษาอังกฤษ
6.และได้นำการพูดและการเขียนมาใช้ในการเรียนการสอนจริง
7.สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
8.มีความกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษ
2.ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
3.ได้ทบทวนความรู้เก่าๆ
4.ได้ฝึกการพูดภาษาอังกฤษ
5.ได้ฝึกการเขียนภาษาอังกฤษ
6.และได้นำการพูดและการเขียนมาใช้ในการเรียนการสอนจริง
7.สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
8.มีความกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษ
วิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษาไทยมากขึ้น
2.ได้ฝึกการอ่านจับใจความ การย่อความและการเขียนเรียงความ
3.ทำให้สามารถเขียนประวัติส่วนตัวแนะนำตนเองได้
4.รับรู้ถึงคุณค่าของวรรณกรรม
5.มีความรู้ในเรื่องของการสื่อสารมากขึ้น
6.สามารถเขียนคำได้ถูกต้องมากขึ้น
7.สามารถอ่านหนังสือได้อย่างชัดเจน
8.กล้าพูดในที่สาธารณะ
9.เกิดความรักและหวงแหนในภาษาไทย
2.ได้ฝึกการอ่านจับใจความ การย่อความและการเขียนเรียงความ
3.ทำให้สามารถเขียนประวัติส่วนตัวแนะนำตนเองได้
4.รับรู้ถึงคุณค่าของวรรณกรรม
5.มีความรู้ในเรื่องของการสื่อสารมากขึ้น
6.สามารถเขียนคำได้ถูกต้องมากขึ้น
7.สามารถอ่านหนังสือได้อย่างชัดเจน
8.กล้าพูดในที่สาธารณะ
9.เกิดความรักและหวงแหนในภาษาไทย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
เรียกร้องความสนใจ โดย ครูอ้อย แซ่เฮ
กลุ่มคำว่า..เรียกร้องความสนใจ ค่อนข้างจะเป็นทางลบ หมายถึง ไม่ค่อยจะมีความหมายไปในทางที่ดี
การเรียกร้องความสนใจ มักจะเกิดกับคนที่กล้าแสดงออก อยากแสดงอะไรก็ได้ ให้เพื่อนยอมรับ เขาเรียกว่า...เรียกร้องความสนใจ
มีอยู่ในตัวคนทุกเพศ ทุกวัย ในนักเรียนเล็กๆ ของครูอ้อยก็เยอะ ในตัวครูที่อายุจนปูนนี้ก็มาก
ความสนใจ ไม่ใช่จะเป็นเรื่องเลวร้าย เปล่าเลย กลับเป็นเรื่องที่ดี เสียด้วยซ้ำไป
ความสนใจของคนเรามีอยู่ในตัวคนทุกคน มีความแตกต่างกันไปในเรื่องที่สนใจ
แต่จะทำอย่างไร ให้พวกเขามาสนใจในสิ่งเดียวกันได้ เป็นเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ เราหมายถึง...ครูผู้สอน พวกเขาหมายถึง...นักเรียน นักเรียนมีมาหลากหลายครอบครัวที่มีหลากหลายฐานะ ความสนใจ ความเอาใจใส่ ความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนครัวเศรษฐกิจ ที่มีความมั่นคงไม่เท่าเทียมกัน เป็นตัวประกอบต่างๆ ที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียน...แตกต่างกัน
หากครูผู้สอน รู้จักเรียกร้องความสนใจ ให้นักเรียนที่อยู่ในความปกครองของตนเอง หันมาให้ความสนใจ รักเรียน ใฝ่เรียนรู้ได้ นับว่า เป็นผลสำเร็จอย่างดีงาม....
ครูอ้อย พูดให้น้อง ครู ป.บัณฑิต ที่มาฝึกการสอนที่โรงเรียน ให้เข้าใจ ถึงการจัดการเรียนรู้ที่ดี ที่จะนำพาให้นักเรียนบรรลุตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 นั้น ต้องให้นักเรียน มีความรู้ มีทักษะกระบวนการ เจตคติที่ดี ซึ่งจะต้องศึกษาให้แม่นยำ ที่สำคัญที่สุดก็คือ...ทำอะไร สอนอะไร มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ให้ยึดนักเรียนเป็นสำคัญ...บรรลุจุดประสงค์แน่ๆ
นอกจากนั้น ต้องรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล สามารถดึงความสนใจของนักเรียนออกมาให้ได้ และนำความสนใจนั้นมาเรียบเรียง จัดการเรียนรู้ไปตามนั้น นักเรียนจะเรียนรู้ไปอย่างมีความสุข สนุก และไม่รู้ตัวเลยว่า...กำลังเรียนรู้แล้ว
เรียกร้องความสนใจ จะต้องเป็นกลุ่มคำที่ มีความหมายเป็นบวก อันหมายถึง ดึงความสนใจออกมา เรียกออกมาใช้ ใช้ในทางที่ถูกต้อง มีความหมาย มีความสำเร็จ
ความสนใจ จึงจะ มีความหมาย เป็นสิ่งที่ดี ที่งาม ที่สำเร็จ ตลอดไป
ที่มา : http://gotoknow.org/blog/skuikratoke/160795
การเรียกร้องความสนใจ มักจะเกิดกับคนที่กล้าแสดงออก อยากแสดงอะไรก็ได้ ให้เพื่อนยอมรับ เขาเรียกว่า...เรียกร้องความสนใจ
มีอยู่ในตัวคนทุกเพศ ทุกวัย ในนักเรียนเล็กๆ ของครูอ้อยก็เยอะ ในตัวครูที่อายุจนปูนนี้ก็มาก
ความสนใจ ไม่ใช่จะเป็นเรื่องเลวร้าย เปล่าเลย กลับเป็นเรื่องที่ดี เสียด้วยซ้ำไป
ความสนใจของคนเรามีอยู่ในตัวคนทุกคน มีความแตกต่างกันไปในเรื่องที่สนใจ
แต่จะทำอย่างไร ให้พวกเขามาสนใจในสิ่งเดียวกันได้ เป็นเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ เราหมายถึง...ครูผู้สอน พวกเขาหมายถึง...นักเรียน นักเรียนมีมาหลากหลายครอบครัวที่มีหลากหลายฐานะ ความสนใจ ความเอาใจใส่ ความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนครัวเศรษฐกิจ ที่มีความมั่นคงไม่เท่าเทียมกัน เป็นตัวประกอบต่างๆ ที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียน...แตกต่างกัน
หากครูผู้สอน รู้จักเรียกร้องความสนใจ ให้นักเรียนที่อยู่ในความปกครองของตนเอง หันมาให้ความสนใจ รักเรียน ใฝ่เรียนรู้ได้ นับว่า เป็นผลสำเร็จอย่างดีงาม....
ครูอ้อย พูดให้น้อง ครู ป.บัณฑิต ที่มาฝึกการสอนที่โรงเรียน ให้เข้าใจ ถึงการจัดการเรียนรู้ที่ดี ที่จะนำพาให้นักเรียนบรรลุตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 นั้น ต้องให้นักเรียน มีความรู้ มีทักษะกระบวนการ เจตคติที่ดี ซึ่งจะต้องศึกษาให้แม่นยำ ที่สำคัญที่สุดก็คือ...ทำอะไร สอนอะไร มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ให้ยึดนักเรียนเป็นสำคัญ...บรรลุจุดประสงค์แน่ๆ
นอกจากนั้น ต้องรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล สามารถดึงความสนใจของนักเรียนออกมาให้ได้ และนำความสนใจนั้นมาเรียบเรียง จัดการเรียนรู้ไปตามนั้น นักเรียนจะเรียนรู้ไปอย่างมีความสุข สนุก และไม่รู้ตัวเลยว่า...กำลังเรียนรู้แล้ว
เรียกร้องความสนใจ จะต้องเป็นกลุ่มคำที่ มีความหมายเป็นบวก อันหมายถึง ดึงความสนใจออกมา เรียกออกมาใช้ ใช้ในทางที่ถูกต้อง มีความหมาย มีความสำเร็จ
ความสนใจ จึงจะ มีความหมาย เป็นสิ่งที่ดี ที่งาม ที่สำเร็จ ตลอดไป
ที่มา : http://gotoknow.org/blog/skuikratoke/160795
การป้องกันตาล้าจากการดูจอภาพคอมพิวเตอร์
ถ้านั่งทำคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการตาล้า สมาคมป้องกันอาการตาบอดในอเมริกาแนะนำให้ปรับเปลี่ยนโต๊ะทำงานอาจจะสามารถป้องกันอาการนี้ได้ ดังนี้
• อยู่ห่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-26 นิ้ว และอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าระดับสายตาเพียงเล็กน้อย
• ลดแสงจ้าจากหน้าจอด้วยการมีดวงไฟหรือโคมไฟเหนือศีรษะ หรือติดตั้งม่านบังแสงไม่ให้เกิดแสงสะท้อน หรืออาจจะใช้แผ่นกรองแสงที่หน้าจอ
• ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ควรเลือกรุ่นที่ปรับระดับหน้าจอและแสงสว่างของจอภาพได้
ที่มา: ข่าววิทยาการ น.ส.พ.ไทยรัฐ, "ป้องกันสายตาล้าจากคอมพิวเตอร์", http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=25368
• อยู่ห่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 20-26 นิ้ว และอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าระดับสายตาเพียงเล็กน้อย
• ลดแสงจ้าจากหน้าจอด้วยการมีดวงไฟหรือโคมไฟเหนือศีรษะ หรือติดตั้งม่านบังแสงไม่ให้เกิดแสงสะท้อน หรืออาจจะใช้แผ่นกรองแสงที่หน้าจอ
• ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ควรเลือกรุ่นที่ปรับระดับหน้าจอและแสงสว่างของจอภาพได้
ที่มา: ข่าววิทยาการ น.ส.พ.ไทยรัฐ, "ป้องกันสายตาล้าจากคอมพิวเตอร์", http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=25368